การละเล่นพื้นบ้านของไทย
รีรีข้าวสาร
เป็นการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทยในสมัยก่อน
ปัจจุบันนี้ไม่มีให้ได้พบเห็นกันอีกแล้ว เนื่องจากวัฒนธรรมประเพณีจากชาติต่างๆ ได้แพร่กระจายเข้ามาแผ่หลายในประเทศไทยของเรา
จนทำให้การละเล่นพื้นบ้านแบบของไทยที่เคยมีมาแต่อดีตได้หายไปจากสายตาของคนไทยในยุคสมัยนี้แล้ว
การเล่น
ผู้เล่นจะต้องจับไม้สั้นไม้ยาวหรือจะใช้วิธีเป่ายิ่งฉูบกันก็ได้
ว่าใครจะเป็นประตู ให้ผู้เล่น 2 คน
ยืนเอามือประสานกันเหนือศีรษะเป็นประตูโค้ง เด็กผู้เล่นคนอื่นๆ
เกาะไหล่กันลอดใต้โค้งไปเรื่อยๆ สองคนที่เป็นประตูจะร้องเพลงประกอบเวลา แถวผู้เล่นลอดใต้โค้ง
หัวแถวจะต้องเดินอ้อมหลังคนที่เป็นประตูครั้งละหน เมื่อจบเพลงสอง
คนที่เป็นประตูจะกระดุกแขนลงกั้นคนสุดท้ายให้อยู่ระหว่างกลางและคัดออกไป
คนข้างหลังต้องระวังตัวให้ดี ไม่เช่นนั้นตัวเองจะต้องออกจากการเล่น
ต้องผ่านให้ได้หมดทุกคนจึงจะจบ
เพลงที่นำมาร้องประกอบการละเล่น มีเนื้อเพลงดังนี้
รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
คดข้าวใส่จาน พานเอาคนข้างหลังไว้ให้ดี..
เมื่อถึงคำสุดท้าย ซุ้มประตูก็จะลดมือลง กักตัวผู้เล่นที่เดินผ่านมา ผู้เล่นที่ถูกกักตัวจะถูกคัดออก หรืออาจจะถูกลงโทษด้วยการให้รำหรือทำท่าทางอะไรก็ได้
เมื่อถึงคำสุดท้าย ซุ้มประตูก็จะลดมือลง กักตัวผู้เล่นที่เดินผ่านมา ผู้เล่นที่ถูกกักตัวจะถูกคัดออก หรืออาจจะถูกลงโทษด้วยการให้รำหรือทำท่าทางอะไรก็ได้
ประโยชน์และคุณค่าจากการเล่นรีรีข้าวสาร
การละเล่นชนิดนี้ เป็นการเล่นของเด็กอายุระหว่าง 4 –
6 ปี เล่นรวมกันทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย เด็กจะได้รับประโยชน์เป็นการเพิ่มพัฒนาการให้กับเด็กๆในวัยนี้
ประโยชน์การเล่น เช่น
- เพลิดเพลิน จิตใจร่าเริง แจ่มใส ซึ่งจะทำให้เด็กๆยอมรับในกฎเกณฑ์กติกาในการเล่น
- ได้ออกกำลังกายพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้แข็งแรง
- หัดให้เด็กมีไหวพริบ ปฏิภาณ และรู้จักใช้กลยุทธที่จะให้ตนรอดจากการถูกคล้องตัวไว้
- หัดให้เด็กรู้จักทำงานเป็นกลุ่มโดยหัวแถวต้องพยายามพาแถว โดยเฉพาะคนสุดท้ายให้รอดพ้นจากการถูกกักตัวให้ได้
- เพลิดเพลิน จิตใจร่าเริง แจ่มใส ซึ่งจะทำให้เด็กๆยอมรับในกฎเกณฑ์กติกาในการเล่น
- ได้ออกกำลังกายพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้แข็งแรง
- หัดให้เด็กมีไหวพริบ ปฏิภาณ และรู้จักใช้กลยุทธที่จะให้ตนรอดจากการถูกคล้องตัวไว้
- หัดให้เด็กรู้จักทำงานเป็นกลุ่มโดยหัวแถวต้องพยายามพาแถว โดยเฉพาะคนสุดท้ายให้รอดพ้นจากการถูกกักตัวให้ได้
การละเล่นดังกล่าวได้กล่าวมาแล้ว ว่าปัจจุบันไม่พบเห็นการละเล่นพื้นบ้านแบบนี้อีกแล้ว
นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับประเพณีการละเล่นพื้นบ้านพื้นเมืองของไทย
กำลังจะหดหายหรือสาบสูญไป
อันสืบเนื่องมาจากการที่โลกเรามีการปลี่ยนแปลงไปในทางวัตถุเสียมากกว่า
เรานำวัฒนธรรมหรือประเพณีต่างชาติเข้ามาในประเทศ จนทำให้วัฒนธรรมหรือประเพณีที่เป็นแบบฉบับของเราโดยแท้
มันกำลังสาบสูญหายไปอย่างน่าเสียดาย..
...สังคมกำลังเปลี่ยนไป
จากสังคมไทยที่มีแต่ความเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง มีความสมานสามัคคีซึ่งกันและกัน
กลายเป็นสังคมก้มหน้า...เป็นเสียแล้ว.............
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น